เมื่อการเล่นระยะไกลไม่พร้อมใช้งาน
ไม่ว่าคุณกำลังพบปัญหาใดอยู่ก็ตาม เมื่อการเล่นระยะไกลไม่พร้อมใช้งาน ให้ลองตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซอฟต์แวร์ระบบ และแอปก่อน สำหรับรายละเอียด โปรดดู "สิ่งที่ต้องตรวจสอบก่อนเมื่อการเล่นระยะไกลไม่พร้อมใช้งาน"
นอกจากนี้ คุณอาจจะต้องตรวจสอบสิ่งต่อไปนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
- เมื่ออุปกรณ์ไคลเอนต์ของคุณไม่พบคอนโซล PS5 หรือคอนโซล PS4 ที่คุณพยายามควบคุม
- เมื่อการเชื่อมต่อไม่เสถียร
- เมื่อใช้การเล่นระยะไกลด้วยอินเทอร์เน็ตมือถือ
- ก่อนจะพยายามเชื่อมต่อจากระยะไกลจากภายนอกบ้าน ให้ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่ออย่างถูกต้องขณะที่คุณอยู่ใกล้คอนโซล PS5 หรือคอนโซล PS4 ที่คุณพยายามควบคุม
- การเล่นระยะไกลอาจไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเนื้อหาหรือวิธีการใช้งาน สำหรับรายละเอียด โปรดดู “ข้อจำกัด”
- คุณสามารถไปที่ เว็บไซต์สนับสนุน เพื่อดูข้อมูล
สิ่งที่ต้องตรวจสอบก่อนเมื่อการเล่นระยะไกลไม่พร้อมใช้งาน
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคอนโซล PS5 หรือคอนโซล PS4 ของคุณสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และคุณสามารถลงชื่อเข้าใช้ PlayStation Network ได้
- จากหน้าจอหลักที่คอนโซล PS5 ของคุณ ไปที่
[การตั้งค่า] > [เครือข่าย] > [สถานะการเชื่อมต่อ] แล้วเลือก [การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต] หรือ [PlayStation Network]
- จากหน้าจอฟังก์ชันที่คอนโซล PS4 ของคุณ ไปที่
[การตั้งค่า] แล้วเลือก [เครือข่าย] ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ทำเครื่องหมายถูกสำหรับ [เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต] นอกจากนี้ คุณยังตรวจสอบได้โดยไปที่ [ทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต] แล้วเลือก [การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต] หรือ [ลงชื่อเข้าใช้ PlayStation Network]
- จากหน้าจอหลักที่คอนโซล PS5 ของคุณ ไปที่
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์ระบบบนคอนโซล PS5 หรือคอนโซล PS4 ของคุณได้รับการอัพเดทเป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้ว
- จากหน้าจอหลักที่คอนโซล PS5 ของคุณ ไปที่
[การตั้งค่า] > [ระบบ] > [ซอฟต์แวร์ระบบ] > [การตั้งค่าและการอัพเดทซอฟต์แวร์ระบบ] แล้วเลือก [อัพเดทซอฟต์แวร์ระบบ]
- จากหน้าจอฟังก์ชันที่คอนโซล PS4 ของคุณ ไปที่
[การตั้งค่า] แล้วเลือก [การอัพเดทซอฟต์แวร์ระบบ]
- จากหน้าจอหลักที่คอนโซล PS5 ของคุณ ไปที่
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่า
[PS Remote Play] ได้รับการอัพเดทเป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้วบน Windows PC, Mac หรืออุปกรณ์มือถือของคุณ
หากยังไม่ได้รับการอัพเดทเป็นเวอร์ชันล่าสุด ให้เปิด[PS Remote Play] แล้วทำตามคำแนะนำบนหน้าจอของคุณเพื่ออัพเดทแอป
เมื่ออุปกรณ์ไคลเอนต์ของคุณไม่พบคอนโซล PS5 หรือคอนโซล PS4 ที่คุณพยายามควบคุม
คุณสามารถเชื่อมโยงอุปกรณ์ (ไคลเอนต์) เพื่อควบคุมอุปกรณ์ที่สอง (โฮสต์) จากระยะไกลด้วยตนเองได้ หลังจากเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งสองเข้ากับเครือข่ายเดียวกันแล้ว ให้ทำตามคำแนะนำบนหน้าจอของคุณ
- จากหน้าจอหลักที่คอนโซล PS5 ที่เป็นโฮสต์ ไปที่
[การตั้งค่า] > [ระบบ] > [เล่นระยะไกล] แล้วเลือก [เชื่อมโยงอุปกรณ์] และตัวเลขจะปรากฏขึ้น เปิดแอป Remote Play บนอุปกรณ์ไคลเอนต์ ป้อนหมายเลขจากคอนโซล PS5 ที่เป็นโฮสต์ลงในแอป Remote Play ที่อุปกรณ์ไคลเอนต์ของคุณเพื่อเชื่อมโยงอุปกรณ์ทั้งสอง
- จากหน้าจอฟังก์ชันที่คอนโซล PS4 ที่เป็นโฮสต์ เลือก
[การตั้งค่า] > [การตั้งค่าการเชื่อมต่อการเล่นระยะไกล] แล้วเลือก [เพิ่มอุปกรณ์] และตัวเลขจะปรากฏขึ้น เปิดแอป Remote Play บนอุปกรณ์ไคลเอนต์ ป้อนหมายเลขจากคอนโซล PS4 ที่เป็นโฮสต์ลงในแอป Remote Play ที่อุปกรณ์ไคลเอนต์ของคุณเพื่อเชื่อมโยงอุปกรณ์ทั้งสอง
- จากหน้าจอหลักที่คอนโซล PS5 ที่เป็นโฮสต์ ไปที่
การเล่นระยะไกลจะใช้พอร์ต UDP 8572 ในการเชื่อมต่อกับคอนโซล PS5, คอนโซล PS4 หรืออุปกรณ์มือถือของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเราเตอร์ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือของคุณไม่ได้ปิดกั้นพอร์ตนี้ หากเราเตอร์ของคุณปิดกั้นพอร์ตนี้ คุณสามารถตั้งค่า Port Forwarding และอนุญาตให้อินเทอร์เน็ตเข้าถึงคอนโซล PS5 หรือคอนโซล PS4 ของคุณได้ วิธีนี้อาจช่วยให้คุณสามารถใช้งานการเล่นระยะไกลได้ หากพอร์ตไม่ได้ถูกปิดกั้น หรือยังไม่สามารถใช้งานการเล่นระยะไกลได้หลังจากทำการตั้งค่า Port Forwarding แล้ว โปรดติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ
หากใช้งานอินเทอร์เน็ตมือถือ โปรดติดต่อผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือของคุณ
“Port forwarding” หรือที่เรียกว่า “port mapping” หรือ “address conversion” จะทำการเปลี่ยนเส้นทางของสัญญาณจากพอร์ตเฉพาะพอร์ตหนึ่ง (ขาเข้า) ไปยังอีกพอร์ตหนึ่งที่กำหนด (ขาออก)
หากไม่ได้รับประเภท NAT สภาพแวดล้อมในเครือข่ายของคุณจะไม่รองรับการเล่นระยะไกล คุณสามารถตรวจสอบประเภท NAT ของคุณได้โดยการเปิด
[PS Remote Play] และดำเนินการดังต่อไปนี้
- บน Windows PC ของคุณ ไปที่
[การตั้งค่า] แล้วเลือก [ข้อมูล]
- บน Mac ของคุณ เลือก
[การกำหนดค่า]
- บนอุปกรณ์มือถือของคุณ ไปที่
[การตั้งค่า] แล้วเลือก [ประเภท NAT]
หากสภาพแวดล้อมในเครือข่ายของคุณใช้ NAT ประเภทที่ 3 คุณอาจไม่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ และอาจไม่สามารถใช้งานการเล่นระยะไกลได้
- บน Windows PC ของคุณ ไปที่
เมื่อการเชื่อมต่อไม่เสถียร
- ขอแนะนำให้ใช้การเชื่อมต่อแบบมีสายในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเข้ากับคอนโซล PS5, คอนโซล PS4, Windows PC หรือ Mac ของคุณ
ขอแนะนำให้ใช้การเชื่อมต่อความเร็วสูงที่มีความเร็วในการอัพโหลดและดาวน์โหลดอย่างน้อย 5 Mbps ตรวจสอบความเร็วในการเชื่อมต่อโดยประมาณสำหรับคอนโซล PS5 หรือคอนโซล PS4 ของคุณได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้
- ที่คอนโซล PS5 ของคุณ ไปที่
[การตั้งค่า] > [เครือข่าย] > [สถานะการเชื่อมต่อ] แล้วเลือก [ทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต]
- ที่คอนโซล PS4 ของคุณ ไปที่
[การตั้งค่า] > [เครือข่าย] แล้วเลือก [ทดสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต]
หากสภาพแวดล้อมในเครือข่ายของคุณรองรับความเร็วในการเชื่อมต่อได้ไม่เพียงพอ โปรดติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือของคุณเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
- ที่คอนโซล PS5 ของคุณ ไปที่
- ระหว่างการเล่นระยะไกล การสตรีมวิดีโอและสื่อต่างๆ บนอุปกรณ์ไคลเอนต์อาจทำให้วิดีโอสั่นไหวและสะดุด สิ่งนี้อาจเกิดขึ้นได้เช่นกันหากอุปกรณ์อื่นๆ ในเครือข่ายของคุณใช้แบนด์วิดท์จำนวนมาก รอจนกว่าจะไม่มีการใช้งาน จึงค่อยใช้การเล่นระยะไกล
- หากคุณกำลังใช้การเล่นระยะไกลในการควบคุมคอนโซล PS4 จาก Windows PC, Mac หรืออุปกรณ์มือถือของคุณ ไปที่
[การตั้งค่า] หรือ
[การกำหนดค่า] แล้วเลือก [คุณภาพวิดีโอสำหรับการเล่นระยะไกล] เพื่อตั้งค่าคุณภาพวิดีโอให้มีความละเอียดต่ำลง ซึ่งอาจจะช่วยให้การเชื่อมต่อมีความเสถียร ทำให้การเล่นระยะไกลราบรื่นขึ้น หากคุณกำลังใช้การเล่นระยะไกลในการควบคุมคอนโซล PS5 หรือคอนโซล PS4 (ซีรีส์ CUH-7000 / ซีรีส์ CUH-7100 / ซีรีส์ CUH-7200) คุณภาพวิดีโอจะได้รับการปรับโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานะเครือข่ายของคุณ
เมื่อใช้การเล่นระยะไกลด้วยอินเทอร์เน็ตมือถือ
- ใช้การเล่นระยะไกลในตำแหน่งที่การเชื่อมต่อมีความเสถียรและมีความเร็วเพียงพอ
- การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ไคลเอนต์ไปรอบๆ จะทำให้การเชื่อมต่อไม่เสถียร ซึ่งอาจส่งผลให้การเล่นระยะไกลถูกขัดจังหวะหรือถูกยกเลิกการเชื่อมต่อได้
- การเล่นระยะไกลจะตัดการเชื่อมต่อเมื่อคุณสลับระหว่างอินเทอร์เน็ตมือถือกับ Wi-Fi® ในขณะใช้งาน
- การเล่นระยะไกลอาจไม่พร้อมใช้งานหรือติดขัดเนื่องจากการเชื่อมต่อที่ไม่เสถียร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโครงสร้างเครือข่ายของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือของคุณ นอกจากนี้ คุณภาพของวิดีโออาจไม่ดีและปรับปรุงไม่ได้
- ความเร็วในการเชื่อมต่อและการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุณอาจจำกัด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแผนของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือของคุณ ในกรณีนี้ การเล่นระยะไกลอาจไม่พร้อมใช้งาน สำหรับรายละเอียด โปรดตรวจสอบแผนและสัญญาของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือของคุณ หรือติดต่อผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือของคุณ
- หากมีรหัสข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ให้ใช้ข้อมูลต่อไปนี้ในการอ้างอิง
0x81221101
0x81221104
0x81221105
0x81221106คุณมีความเร็วในการเชื่อมต่อไม่เพียงพอสำหรับการใช้งานการเล่นระยะไกล ขอแนะนำให้ใช้การเชื่อมต่อความเร็วสูงที่มีความเร็วในการอัพโหลดและดาวน์โหลดอย่างน้อย 5 Mbps 0x81121102 การเชื่อมต่อไม่เสถียร หากคุณเปลี่ยนตำแหน่งหรือรอสักครู่อาจจะสามารถเชื่อมต่อได้ 0x81221103 เครือข่ายมือถือของคุณมีการใช้งานอย่างหนาแน่น หากคุณรอสักครู่และลองอีกครั้งอาจจะสามารถเชื่อมต่อได้
หากคุณยังคงพบปัญหาขณะใช้งานอินเทอร์เน็ตมือถือในการเล่นระยะไกล โปรดดู "เมื่ออุปกรณ์ไคลเอนต์ของคุณไม่พบคอนโซล PS5 หรือคอนโซล PS4 ที่คุณพยายามควบคุม" และ "เมื่อการเชื่อมต่อไม่เสถียร" สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมที่อาจเป็นประโยชน์